คำถาม : มีค่อฏีบมัสยิดแห่งหนึ่ง ประจำตำบล ของเมือง (หนึ่งในคำถามระบุชื่อเมืองด้วย ขอเว้นที่จะกล่าวเพราะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรา) ซึ่งเราก็อาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าว ค่อฏีบคนดังกล่าวเป็นซูฟีสายชาซิลียะห์ซึ่งพวกเขาเรียกตัวเองเช่นนั้น เขาเชิญชวนและสอนผู้คนให้ตะวัซซุ้ลกับสิ่งถูกสร้างทั้งหลายของอัลเลาะห์ เช่นบรรดานะบี บรรดาวะลี(คนดีๆ ที่ใกล้ชิดกับอัลเลาะห์) เขาเชิญชวนให้ไปยังสุสานที่มีการก่อวัตถุครอบที่ฝังศพ เขากล่าวแก่ผู้ไปเยือนสุสานว่าการสาบาน(ในลักษณะบนบาน)ต่อนะบีหรือต่อวะลีเป็นสิ่งที่อนุมัติ และหากผู้ใดได้ตามประสงค์แล้ว ก็ให้แก่คำสาบาน(แก้บน) นั้นได้ พวกเราเป็นมุสลิมกลุ่มหนึ่งที่คัดค้านสิ่งดังกล่าวและได้โต้แย้งกับเขาในเรื่องข้อผิดพลาดที่เขากระทำและสิ่งที่เขาสอนคนทั้งหลาย อย่างผิดๆ แต่เมืองนี้(ในคำถามระบุชื่อเมืองด้วย) เป็นอย่างที่ทราบกันอยู่ (ว่ามีรูปแบบความผิดเพี้ยนมากมายทั้งทางปฏิบัติและความเชื่อ) เขาอ้างฮะดีษฎ่ออีฟ (อ่อนหลักฐาน) และเมาฎั๊วอฺ (เป็นเท็จ) มาสนับสนุนการกระทำของเขา จะเป็นที่อนุมัติหรือไม่หากเราจะยังละหมาดตามหลังเขา เพราะเรายังสร้างมัสยิดของเราไม่เสร็จ ซึ่งกำลังรวบรวมเงินบริจาคอยู่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้รับคำตอบจากท่าน ขอให้อัลเลาะห์ ตะอาลา ทรงประคับประคองทั้งเราและท่าน (ให้อยู่ในหนทางอันเที่ยงตรง) โดยที่เราทราบมาว่าท่านชัยคุ้ลอิสลาม อิบนุ ตัยมียะห์ และเชค มุฮัมหมัด อิบนุ อับดุ้ลวะฮาบ(ขออัลเลาะห์ทรงพอพระทัยและเมตตาท่านเหล่านั้นด้วย) เคยฟัตวาไว้ว่า มันเป็น กุฟร์ ?
คำตอบ การวิงวอนขอ(ดุอาให้พ้นภัย)จากคนที่ตายแล้วไม่ว่าจะเป็นการขอต่อผู้ตายอย่างเดียว หรือเป็นการขอไปพร้อมๆ กับการขอต่ออัลเลาะห์ด้วย ล้วนแล้วแต่การตั้งภาคีที่ใหญ่หลวง และทำให้ผู้ขอสิ้นสภาพการเป็นมุสลิม ไม่ว่าจะขอต่อนะบีหรือวะลีก็ตาม ในทำนองเดียวกันการวิงวอนขอ (ความช่วยเหลือใดๆ) ต่อผู้อื่นลับหลังก็ถือว่าเป็นการตั้งภาคีที่ใหญ่หลวงและทำให้ผู้นั้นสิ้นสภาพการเป็นมุสลิมเช่นกัน การละหมาดตามหลังคนเหล่านี้ไม่เป็นที่อนุมัติแต่อย่างใดทั้งสิ้นเนื่องจากการตั้งภาคีของพวกเขา ส่วนคนที่ขอดุอาอฺต่ออัลเลาะห์เพียงพระองค์เดียว แต่อาศัยการอ้างหน้าตาของนะบีหรือวะลีเป็นสื่อเพื่อให้ดุอาอฺนั้นถูกรับจากอัลเลาะห์ หรือไปเดินเวียนรอบกุโบรของคนเหล่านั้นโดยไม่คิดหรือเชื่อว่ากุโบรเหล่านั้นส่งผลโดยตรงแต่อย่างใด เพียงแต่หวังว่าตำแหน่งหรือหน้าตาของผู้นอนอยู่ใน กุโบรนั้น อาจเป็นสื่อไปสู่การรับดุอาอฺจากอัลเลาะห์เท่านั้น การกระทำนี้ถือว่าเป็นบิดอะห์ ผู้กระทำก็ยังไม่พ้นความผิดบาป เพราะการกระทำดังกล่าวจะเป็นเหตุไปสู่การตั้งภาคีต่ออัลเลาะห์ และกังวลว่าอาจเป็นเหตุไปสู่การตั้งภาคีที่ยิ่งใหญ่ในที่สุด เราขอวิงวอนต่ออัลเลาะห์ให้ช่วยเหลือพวกท่านเผยแพร่หลักเตาฮีด สนับสนุนความถูกต้อง และต่อสู้กับพวกบิดอะห์ทั้งหลายด้วย วะบิ้ลลาฮิตเตาฟีก วะศ้อลลัลลอฮุอะลานะบียินา มุฮัมหมัด วะอาลิฮี วะเศาะห์บิฮี วะซัลลัม
แหล่งที่มา; ฟัตวาเลขที่ (4154) จากฟะตาวาของคณะกรรมการถาวร