คำถาม : คือส่วนหนึ่งจากแนวทางสะลัฟหรือไม่ครับ การนิ่งเฉยต่อผู้เผยแพร่บิดอะฮฺ เพื่อรักษาผลประโยชน์บางประการ รวมถึงการนิ่งเฉยต่อการชี้ชัดตัดสินพวกบิดอะฮ์ว่าเป็นชาวบิดอะฮ์ และไม่เตือนให้ระวังเขา โดยอ้างการรักษาผลประโยชน์ ?
คำตอบ : “การนิ่งเงียบต่อพวกบิดอะฮ์ที่เรียกร้องเชิญชวนผู้อื่นไปสู่บิดอะฮ์ทั้งหลาย (โดยอ้างว่า) เป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์สำคัญบางประการนั้น นี่ไม่ใช่แนวทาง(มันฮัจญ์)ของชาวสะลัฟเลย , ทั้งนี้เพราะการแพร่ขยายของบิดอะฮ์ที่กระจายสู่สังคม(ในวงกว้างนั้น) มันได้ทำลายผู้คนในสังคมนั้น , ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า การขจัดสิ่งที่เป็นความเสื่อมเสียนั้นย่อมต้องมาก่อนการแสวงหาผลประโยชน์ ,
เช่นเดียวกันกับที่ไม่อนุญาตให้นิ่งเงียบต่อการพูดกล่าว (ชี้แจง) ต่อพวกอุตริตามข้อเท็จจริงที่เขาเป็น ; เพราะการนิ่งเฉยต่อพวกเหล่านี้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม , จึงจำเป็นต้องชี้แจงถึง(ตัวตน)ของพวกอุตริในบิดอะฮ์ที่เขาก่อขึ้น และต้องเตือนผู้คนให้ระวังเขาคนนี้ เพื่อเป็นการชี้แนะตักเตือนแก่ปวงมุสลิม , ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับความสามารถในการอธิบายชี้แจงทั้งในแง่ของรูปธรรมและนามธรรม
ในหะดิษศ่อเฮียะฮ์ ได้ระบุไว้ว่า : “ผู้ใดในหมู่พวกท่านเห็นความชั่วหนึ่ง เขาก็จงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือของเขา หากไม่มีความสามารถ ก็ให้เปลี่ยนแปลงด้วยลิ้นของเขา หากไม่มีความสามารถ ก็ให้เปลี่ยนแปลงด้วยหัวใจของเขา และนี่คือระดับการอีหม่านศรัทธาที่อ่อนแอที่สุด” ศ่อเฮียะฮ์มุสลิม (49)
ดังนั้นการแพร่กระจายของบิดอะฮฺและการนิ่งเฉยต่อผู้เผยแพร่บิดอะฮฺนั้น เท่ากับเป็นการปล่อยให้ความชั่วร้ายดำรงอยู่ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข และสิ่งนี้ไม่เป็นที่อนุญาตในบทบัญญัติอิสลามที่ถูกนำมาโดยผู้แจ้งข่าวดี ผู้ตักเตือน ผู้ที่เป็นดั่งดวงประทีปที่ส่องสว่าง (คือท่านนบีมุฮัมมัด) โดยเป็น(วะฮีย์)ที่ได้รับการประทานลงมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงรอบรู้”
แหล่งที่มา ; เชค เซด บินมุฮัมมัด อัลอัดค่อลีย์ (ร่อฮิม่าฮุ้ลลอฮ์) – อัลอัจวิบะฮ์ อัลอะษะรียะฮ์ อะนิ้ลมะซาอิล อัลมันฮะญียะฮ์ (104)