หากอิหม่ามเสียละหมาด การละหมาดของมะอ์มูมจะใช้ได้หรือไม่

·

คำถาม หากอิหม่ามเสียละหมาด1  การละหมาดของมะอ์มูมจะใช้ได้หรือไม่?

คำตอบ เชคอับดุรเราะฮ์มาน บินนาซิร อัซซะอ์ดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ ได้ตอบว่า มะอ์มูมที่ได้รับการผ่อนปรน(ในเรื่องนี้)คือผู้ที่ไม่ทราบว่าอิหม่ามนั้นมีหะดัษ2 หรือมีนะญิส(สิ่งสกปรก)เปรอะเปื้อน(ขณะนำละหมาด) ซึ่งการละหมาดของเขา(มะอ์มูม)นั้นถือว่าใช้ได้ ถึงแม้ว่าอิหม่ามเองจะรู้ตัวว่ามีหะดัษ หรือนะญิสก็ตาม ด้วยหลักฐานที่ว่า “แต่ละชีวิตจะได้รับผลตามที่ตนได้แสวงหา และถูกเอาผิดตามที่ตนได้กระทำ”(คือ ไม่สามารถแบกรับความผิดของคนอื่นได้) ซึ่งมะอ์มูมไม่ได้กระทำการใดที่ทำให้ละหมาดเป็นโมฆะ หรือเสียไปแต่อย่างใด แล้วจะฮุก่มเขาว่าละหมาดเสียได้อย่างไร? ดังนั้นที่ถูกต้องก็คือ การละหมาดของมะอ์มูมจะไม่เสียตามอิหม่ามในทุกกรณี ถึงแม้อิหม่ามจะเสียละหมาดแล้วเดินออกไปกลางคันก็ตาม (ในกรณีนี้)ให้มะอ์มูมยังคงรักษาละหมาดไว้ โดยอาจจะดำเนินต่อไปในรูปแบบของการละหมาดคนเดียว หรืออาจจะให้(มะอ์มูม)คนอื่นก้าวขึ้นมานำละหมาดที่เหลือต่อจนเสร็จ

คำถาม ถาม : แล้วถ้าหากมะอ์มูมบางคนรู้ว่าอิหม่ามมีหะดัษ การละหมาดของมะอ์มูมที่เหลือจะใช้ได้หรือไม่?

คำตอบ : หากมะอ์มูมบางคนรู้ว่าอิหม่ามมีหะดัษ การละหมาดจะเสียเฉพาะมะอ์มูมที่รู้ ส่วนมะอ์มูมที่เหลือที่ไม่รู้นั้นการละหมาดของเขายังคงใช้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

แหล่งที่มา; อัลฟะตาวาอัซซะอ์ดียะฮ์ ของเชคอับดุรเราะฮ์มาน บินนาซิร อัซซะอ์ดีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 167-168

  1. เป็นโมฆะ ต้องเริ่มละหมาดใหม่ ↩︎
  2. แบ่งออกเป็น หะดัษเล็ก หมายถึง สิ่งที่ทำให้จำเป็นต้องอาบน้ำละหมาด และหะดัษใหญ่ หมายถึง สิ่งที่ทำให้จำเป็นต้องอาบน้ำฆุสล์(ทั่วร่างกาย)เช่น มีเฮด นิฟาส หรือญะนาบะฮ์ ↩︎