คำถาม เพียงพอหรือไม่ สำหรับรุก่นอิสลาม(ในข้อแรก) ที่จะกล่าวเพียงแค่คำปฏิญาณตน(คำกล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม) พร้อมกับเชื่อมั่น (ก็จะทำให้เป็นมุสลิมได้) , หรือจำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ มาสมทบจนกว่าจะทำให้อิสลามและอีหม่านในตัวคนหนึ่งสมบูรณ์ซะก่อน (จึงจะถือว่าเป็นมุสลิม) ?
คำตอบ องค์ประกอบข้อนี้ (รุ่ก่นอิสลามข้อแรก) คือองค์ประกอบที่จะทำให้ผู้ปฏิเสธศรัทธา(กาเฟร)เข้าสู่ศาสนาอิสลามได้ , ดังกล่าวก็ด้วยการปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด(ที่ถูกสักการะอย่างเที่ยงแท้)นอกจากอัลลอฮ์ และท่านนบีมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์ , โดย (กล่าวออกมา) ด้วยความสัจจริงและเชื่อมั่นและรู้ถึงความหมายของคำปฏิญาณเป็นอย่างดี พร้อมควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของคำปฏิญาณนั้น ๆ (อิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ละทิ้งชิริก) , จากนั้นจึงค่อยเริ่มในเรื่องการละหมาด ต่อมาก็องค์ประกอบข้ออื่น ๆ ตามมา (ซะกาต , ถือศีลอด , ฮัจญ์) หรือข้อบังคับอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้เอง ในขณะที่ท่านนบี ﷺ ได้ทำการส่งท่านมุอ้าซ บิน ญะบัล – ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ – ไปยังประเทศเยเมน ท่านนบี ﷺ ก็ได้กล่าวกับท่านมุอ้าซ บิน ญะบัล ว่า : จงเรียกร้องพวกเขาให้กล่าวปฏิญาณว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์และแท้จริงมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์ และหากพวกเขาเชื่อฟังเจ้าในเรื่องนี้ (และเข้าอิสลามด้วยการกล่าวปฏิญาณตน) ก็จงบอกกล่าวสอนสั่งพวกเขาไปว่า อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดข้อบังคับ (ภาคฟัรดู) ให้แก่พวกท่านในเรื่องการละหมาดห้าเวลาในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง และหากพวกเขาเชื่อฟังเจ้าในเรื่องนี้ ก็จงประกาศสอนแก่พวกเขาว่า อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดข้อบังคับแก่พวกท่านในเรื่องศ่อดะเกาะฮ์ (ซะกาต) โดยถูกรับเอาจากผู้ที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยในหมู่พวกเขาแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่ยากจนในหมู่พวกเขา (1)
ดังนั้นการละหมาดจะไม่ถูกสั่งใช้ในแรกเริ่ม เว้นเสียแต่จะต้องมีการสอนสั่งในเรื่องเตาฮีด (การให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์) และการอีหม่านศรัทธาต่อท่านร่อซู้ล ﷺ ซะก่อน , ฉะนั้นผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา แรกเริ่มเลย จะต้องให้พวกเขารู้จักในเรื่องเตาฮีด (การให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์) และศรัทธาต่อท่านร่อซู้ล ﷺ เป็นลำดับแรก , และเมื่อผู้ปฏิเสธศรัทธาย่อมรับในสองสิ่งนี้และเข้ารับอิสลามแล้ว สำหรับตัวเขาจะมีฮุก่มข้อบังคับเยี่ยงมุสลิมคนอื่น ๆ , จากนั้นก็ให้มีการสอนสั่งในเรื่องละหมาด ตลอดจนศาสนกิจข้ออื่น ๆ ในด้านศาสนาที่เหลือ.
แหล่งที่มา ; เชค อับดุลอะซีซ อิบนุ บาซ – ร่อฮิม่าฮุ้ลลอฮ์ มัจมัวอ์ อัลฟะตาวา (7/32)