คำถาม ชายคนหนึ่งมีทรัพย์สินครบนิศอบ(เกณฑ์ที่ศาสนากำหนดต้องจ่ายซะกาต) แต่ว่าเขาก็มีหนี้สินที่เมื่อมาหักลบกันแล้วทำให้ทรัพย์สินของเขาลดลงไม่ครบนิศอบ
ฉะนั้นจำเป็นแก่เขาไหมที่จะต้องจ่ายซะกาต ? อย่างเช่นเขามีทองอยู่45มิซกอล และเขาก็ยังมีหนี้สินอีก26มิซกอล
คำตอบ ถูกต้องแล้ว การมีหนี้สินไม่ได้เป็นสิ่งที่จะมาขัดขวางไม่ให้จ่ายซะกาต หากว่าเขามีหนี้สินอยู่1แสน และที่ตัวของเขามีทรัพย์สินอยู่2แสน ตัวเงิน1แสน(ที่เขาเป็นหนี้)ก็ไม่ได้ไปหักลบจากเงินที่เขามีอยู่(2แสน)จนทำให้เขาไม่ต้องจ่ายซะกาต อย่างนี้ไม่ถูกต้อง
แต่ที่ถูกต้องคือเขาต้องจ่ายซะกาตสำหรับทรัพย์สินที่มีอยู่ที่ตัวเขาทั้งหมด(คิดซะกาตจากเงิน2แสนที่มีอยู่กับตัว) ส่วนหนี้สินนั้น อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะช่วยชดใช้ให้
เพราะครั้งเมื่อท่านร่อซูลศอลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ส่งหน่วยงานไปยังผู้คน เพื่อเรียกเก็บซะกาตจากพวกเขา บรรดาหน่วยงานเหล่านั้นก็ไม่ได้ถามก่อนว่าพวกเขามีหนี้สินกันไหม หรือไม่มี ฉะนั้นแล้วการมีหนี้สินไม่ได้เป็นสิ่งขัดขวางไม่ให้จ่ายซะกาต หากว่าเขามีหนี้สินอยู่1แสน และมีเงินสดอยู่1แสน เขาก็ต้องออกซะกาตในเงินที่เขามีอยู่(คือ1แสน) การมีหนี้สินไม่ได้ห้ามการจ่ายซะกาต หนี้สินไม่ได้มาขัดขวางการจ่ายซะกาตเลย
คำถาม : และเหมือนกันไหมครับ(หากว่ามีหนี้สิน)เกี่ยวการบนบานหรือ(ยังค้าง)ต้องจ่ายค่ากัฟฟาเราะฮ์ ที่เงินจำนวนนั้นไปลดนิศอบ(ของทรัพย์สินที่เราครอบครอง)?
คำตอบ : ทุกอย่างไม่ได้มาขัดขวาง(การจ่ายซะกาต) ไม่ว่าจะเป็นหนี้สิน การบนบาน การจ่ายกัฟฟาเราะฮ์ ทุกอย่างไม่สามารถที่จะห้ามการจ่ายซะกาตได้
แหล่งที่มา; เชค อัลดุลอะซีซ บิน บาซ – ร่อฮิม่าฮุ้ลลอฮ์
https://binbaz.org.sa/fatwas/1081/%D9%87%D9%84-%D8%B9%D9%84%D9%89-%D8%A7%D9%84%D9%85%D8%AF%D9%8A%D9%86-%D8%A7%D8%AE%D8%B1%D8%A7%D8%AC-%D8%B2%D9%83%D8%A7%D8%A9
