การเริ่มรับประทานอาหารก่อนทำการละหมาดถือเป็นซุนนะฮ์

·

คำถาม  ท่านเชคครับ มีรายงานมาหลายฮะดีษจากท่านนบี ศ็อลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่บ่งชี้ถึงการให้รับประทานอาหารก่อนที่จะทำการละหมาด ดังที่จะกล่าวนี้เป็นการนำเสนอ(บางตัวบทฮะดีษ)แต่ไม่ได้จำกัดแต่เพียงเท่านี้ : 
มีบันทึกจากเชคทั้งสอง(อิหม่ามบุคอรีย์และมุสลิม)โดยรายงานจากท่านอนัส ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุ ว่าเเท้จริงท่านร่อซู้ล ศ็อลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า : “เมื่อมีอาหารเย็นมาให้พวกท่านเริ่ม(รับประทาน)อาหารนั้นก่อนที่พวกท่านจะไปละหมาดมักริบ” และมีบันทึกจากท่านมุสลิมเช่นเดียวกัน จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮา ว่ามีคำพูดของท่านนบี  ศ็อลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า : “ไม่มีการทำละหมาดเมื่อมีอาหารมา(อยู่ต่อหน้า) และในขณะที่มีการกลั้นการปวดปัสสาวะหรืออุจจาระ” และเช่นเดียวกันมีรายงานจากท่านนบี ศ็อลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งเป็นฮะดีษที่เห็นตรงกันในความถูกต้องของอิหม่ามทั้งสอง(อิหม่ามบุคอรีและมุสลิม) จากท่านอบีกอตาดะฮ์ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า: ท่านร่อซู้ล ศ็อลลั้ลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านเข้ามัสยิด อย่าได้นั่งลงจนกว่าจะทำการละหมาดสองร็อกอัตเสียก่อน”
คำถามครับท่านเชค : ในสภาพที่ฉันถือศีลอดอยู่และได้เข้าไปภายในมัสยิดขณะที่มีการอะซาน(อะซานมักริบ)อยู่ ฉันควรที่จะทำการละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสยิด(เคารพมัสยิด) หรือไปทานอาหารละศีลอดเลย โดยที่อาหารเลี้ยงละศีลอดนั้นอยู่ภายในมัสยิด? ได้โปรดวินิจฉัยเรื่องดังกล่าวด้วยครับ

คำตอบ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการกลั้นสิ่งที่เป็นฮะดัส(ปวดท้องปัสสาวะหรืออุจจาระ)และเรื่องที่เกี่ยวกับการรับประทานอาหารก่อนการไปละหมาด ดังกล่าวนี้ถือเป็นซุนนะฮ์ เพราะจะทำให้เขาสาละวนอยู่กับการละหมาด เพื่อที่เขาจะได้ละหมาดอย่างมีคุชั้วอ์(มีสมาธิ) (ดังฮะดีษที่ว่า) ไม่มีการทำละหมาดเมื่อมีอาหารมา และอีกฮะดีษหนึ่ง เมื่อมีอาหารมาและมีอาหารเย็นมา…” อีกฮะดีษหนึ่ง เมื่อมีอาหารเย็นมาให้พวกท่านเริ่ม(ทาน)อาหารนั่นก่อนที่พวกท่านจะไปละหมาดมักริบ ให้เริ่มทานอาหารเย็นจนเมื่อรู้สึกสบาย(หายหิว) และจนเมื่อรู้สึกสบายใจแล้ว และสามารถที่จะปฏิบัติละหมาดได้อย่างมีคุชัวอ์ และสงบนิ่ง(เฏ่าะมะนีนะฮ์) อย่าได้ทำการละหมาดในขณะที่จิตใจมัวแต่คิดเรื่องอาหารหรือต้องกลั้นฮะดัสทั้งสอง(ปัสสาวะและอุจจาระ) นี่เเหละคือสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำ และเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดเป็นบัญญัติมาให้แก่ผู้ศรัทธา โดยที่ตัวบทฮะดีษหลายบทได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน(นั่นก็คือ) : ไม่มีการทำละหมาดเมื่อมีอาหารมา(อยู่ต่อหน้า) และเมื่อมีการกลั้นการปวดปัสสาวะหรืออุจจาระ และเช่นเดียวกันมีคำสั่งใช้ให้ทานอาหารเย็นก่อนที่จะไปละหมาด เพราะดังกล่าวจะทำให้ใจสงบนิ่ง 

   ส่วนในกรณีที่เขาได้เข้าไปในมัสยิดตอนอาซานมักริบแล้ว โดยที่เขานั่นถือศีลอดก็ให้ทำการละหมาดตะฮียะตุ้ลมัสยิด(ละหมาดเคารพมัสยิด)ก่อน แม้ว่าเขาจะถือศีลอดอยู่ก็ตาม ก็ให้เขาละหมาดสองร็อกอัต เเล้วค่อยละศีลอด เพราะระยะเวลาดังกล่าวนั่นแค่เพียงเล็กน้อยประมาณสองถึงสามนาที อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์ และท่านร่อซู้ลกล่าวว่า: เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านเข้ามัสยิด อย่าได้นั่งลงจนกว่าจะทำการละหมาดสองร็อกอัตเสียก่อน และในฮะดีษอีกบทหนึ่งที่ว่า: จงรุกั้วอฺ(ละหมาด)สองร็อกอัตก่อนที่จะนั่ง นั่นก็คือให้เริ่มละหมาดสองร็อกอัตเสียก่อน หากเขาอยู่ในสภาพที่สะอาด(มีน้ำละหมาด) แล้วค่อยนั่งละศีลอด อัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์

แหล่งที่มา ; หนังสือ “ฟะตาวานูรอะลั้ลดัรบ์” ของเชคบินบาส หมวด การละหมาด3 เล่มที่ 8 หน้าที่ 57