คำถาม : เมื่อผู้เดินทางได้ทำการละหมาดเต็ม(สี่ร็อกอัต)ตามอิหม่าม(กรณีที่อิหม่ามไม่ใช่ผู้เดินทาง) เขาสามารถละหมาดซุนนะห์ร่อวาติ๊บ(หลังละหมาดฟัรฎู)ด้วยได้หรือไม่ เนื่องจากการที่เขาทำ(ละหมาด)เต็มตามบทบัญญัติ?
คำตอบ :เชค มูฮัมหมัดศอและห์ อัลอุศัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ ตอบว่า
(สำหรับผู้เดินทางนั้น) ไม่ต้องละหมาดซุนนะห์ร่อวาติ๊บ เพราะแม้กระทั่งละหมาดมัฆริบที่ต้องทำจำนวนเต็ม(สามร็อกอัต)โดยไม่สามารถย่อได้ พร้อมกันนั้นก็ยังไม่มีบัญญัติให้ละหมาดซุนนะห์(ร่อวาติ๊บ)ในระหว่างเดินทางเลย
เนื่องจากไม่มีการยืนยันจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าท่านละหมาดซุนนะห์(ก่อน-หลัง)ละหมาดซุฮ์ริ มัฆริบ หรืออิชาอ์ ทั้งสามเวลานี้ไม่ต้องละหมาดซุนนะห์(ร่อวาติ๊บ)ระหว่างเดินทาง ส่วนซุนนะห์อาสาอื่นๆยังคงมีบัญญัติให้ละหมาดอยู่
ส่วนคนที่สร้างกฏเกณฑ์ขึ้นมาโดยไม่มีรากฐาน(ทางศาสนา) โดยบอกว่า: “ซุนนะห์ในการเดินทางนั้นคือการไม่มี(ละหมาด)ซุนนะห์อาสา” เราจึงขอพูดแก่เขาว่า:สำหรับการเดินทางนั้นมี(ซุนนะฮ์ให้ละหมาด)ซุนนะห์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการละหมาดในเวลากลางคืน ละหมาดวิเตร ละหมาดซุนนะฮ์สองร็อกอะห์ก่อนละหมาดฟะญัร ละหมาดสองร็อกอะห์เมื่อเข้ามัสยิด ละหมาดอิสติคอเราะห์ รวมถึงละหมาดฎุฮา ยกเว้นละหมาดซุนนะห์(ร่อวาติ๊บ)สามเวลาข้างต้น คือ ซุฮ์ริ มัฆริบ อิชาอ์ ดังกล่าวไม่มีการยืนยันจากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าท่านทำมัน
แหล่งที่มา; เชค มูฮัมหมัดศอและห์ อัลอุศัยมีน ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ ตะอ์ลีกอะลาศ่อเฮี้ยะฮ์มุสลิม หน้า 29 เล่ม 4