คำถาม สิ่งที่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีฮะดัษ[1]กระทำ
[1]ฮะดัษเล็ก คือ การไม่มีน้ำละหมาด ฮะดัษใหญ่ คือ การมีญะนาบะฮ์(การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา หรือการมีน้ำอสุจิเคลื่อนออกมา รวมถึงการมีประจำเดือน และเลือดหลังคลอดบุตร)
คำตอบ
1.สัมผัสอัลกุรอ่าน
ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีฮะดัษสัมผัสอัลกุรอ่านโดยไม่มีสิ่งปิดกั้น ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่ว่า((لا يمسه إلا المطهرون))“ไม่มีผู้ใดจะแตะต้องอัลกุรอาน นอกจากบรรดาผู้บริสุทธิ์เท่านั้น” [ ซูเราะหฺอัลวากิอะหฺ – 79 ]
2.ละหมาดฟัรฎู และซุนนะฮ์
ดังกล่าวเป็นมติเอกฉันท์ในหมู่ผู้รู้ หากมีความสามารถที่จะทำความสะอาด[2]ได้ ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่ว่า
((يا أيها الذين آمنوا إذا قمتم إلى الصلاة فاغسلوا وجوهكم وأيديكم إلى المرافق وامسحوا برءوسكم وأرجلكم إلى الكعبين وإن كنتم جنبا فاطهروا))
“ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! เมื่อพวกเจ้ายืนขึ้นจะไปละหมาด ก็จงล้างหน้าของพวกเจ้า และมือของพวกเจ้าถึงข้อศอก และจงลูบศีรษะของพวกเจ้า และล้างเท้าของพวกเจ้าถึงตาตุ่มทั้งสอง และหากพวกเจ้ามีญะนาบะฮฺ ก็จงชำระร่างกายให้” [ ซูเราะหฺอัลมาอิดะหฺ – 6 ]
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า (อัลลอฮ์ไม่ทรงรับการละหมาดมี่ไม่มีความสะอาด) บันทึกโดยมุสลิม และท่านอื่นๆ และฮะดีษที่ว่า (อัลลอฮ์ไม่ทรงรับการละหมาดของคนที่มีหะดัษจนกว่าเขาจะอาบน้ำละหมาด) ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้คนหนึ่งคนใดละหมาดในสภาพที่ไม่ได้ทำความสะอาดทั้งที่สามารถทำได้ อีกทั้งละหมาดของเขานั้นใช้ไม่ได้ ไม่ว่าเขานั้นจะรู้ฮุก่มหรือไม่ก็ตาม หรือเขานั้นจะลืมหรือตั้งใจก็ตาม หากคนที่รู้ฮุก่มและตั้งใจละหมาดโดยไม่ทำความสะอาด จะถือว่าเขานั้นมีบาปและถูกลงโทษ(ตามที่อิหม่ามเห็นสมควร) ส่วนคนที่ไม่รู้ฮุก่มหรือลืม จะไม่ถือว่าเขานั้นมีบาป แต่ละหมาดนั้นใช้ไม่ได้
[2] หมายถึง การอาบน้ำละหมาดสำหรับผู้ที่ไม่มีน้ำละหมาด และการอาบน้ำฆุสล์ สำหรับผู้ที่มีญะนาบะฮ์
3.ฏ่อวาฟ ณ บัยตุ้ลลอฮ์
ดังที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า (การฏ่อวาฟ ณ บัยตุ้ลลอฮ์ คือการละหมาด เพียงแต่อนุญาตให้พูดคุยได้) และท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เองก็อาบน้ำละหมาดเพื่อทำการฏ่อวาฟ และมีรายงานที่ศ่อเฮี๊ยะฮ์(ถูกต้อง)จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าท่านนั้นห้ามไม่ให้หญิงที่มีประจำเดือนทำการฏ่อวาฟจนกว่านางจะสะอาด ดังกล่าวทั้งหมดเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่า ห้ามไม่ให้ผู้ที่มีฮะดัษฏ่อวาฟจนกว่าเขาจะทำความสะอาด
สิ่งที่ไม่อนุญาตให้กระทำเฉพาะผู้ที่มีฮะดัษใหญ่
1. ห้ามอ่านอัลกุรอ่าน
ดังที่มีรายงานจากหะดีษของท่านอะลีย์ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุ ที่ว่า “ไม่มีสิ่ใดที่จะมาขวางกั้นการอ่านอัลกุรอ่านของท่านได้ (หมายถึง ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) นอกจากการมีญะนาบะฮ์” บันทึกโดย อัตติรมิซีย์ และท่านอื่นๆ ส่วนสำนวนในบันทึกของอิหม่ามอัตติรมิซีย์ ใช้คำว่า “ท่านให้เราอ่าน(อัลกุรอ่าน)ตราบใดที่เรานั้นไม่มีญะนาบะฮ์” ดังกล่าวเป็นหลักฐานห้ามการอ่านอัลกุรอ่านสำหรับผู้ที่มีญะนาบะฮ์ และยังหมายรวมถึง หญิงที่มีประจำเดือน และเลือดหลังคลอดบุตรด้วย แต่ก็มีนักวิชาการบางท่าน เช่น ชัยคุ้ลอิสลาม อิบนุตัยมียะฮ์ ผ่อนปรนให้หญิงที่มีประจำเดือนอ่านอัลกุรอ่านได้ หากเกรงว่าจะหลงลืม
และไม่มีปัญหาสำหรับผู้ที่มีฮะดัษใหญ่ หากเขาจะพูดคำพูดที่ตรงกับสำนวนอัลกุรอ่าน โดยไม่ได้มีเจตนาว่าจะเป็นการอ่านอัลกุรอ่าน แต่มีเจตนากล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์ เช่น คำกล่าว “บิสมิ้ลลาฮิรเราะฮ์มานิรร่อฮีม” หรือ “อัลฮัมดุลิ้ลลาฮิร็อบบิ้ลอาละมีน” เป็นต้น ดังที่มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮา ว่า “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นจะรำลึกถึงอัลลอฮ์ ในทุกๆช่วงเวลา
2.ห้ามผู้ที่มีญะนาบะฮ์ และหญิงที่มีประจำเดือน และเลือดหลังคลอดบุตรพำนักในมัสญิดโดยไม่มีน้ำละหมาด
ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่ว่า
(( يا أيها الذين آمنوا لا تقربوا الصلاة وأنتم سكارى حتى تعلموا ما تقولون ولا جنبا إلا عابري سبيل حتى تغتسلوا ))
“ผู้ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าเข้าใกล้การละหมาด ขณะที่พวกเจ้ากำลังมึนเมาอยู่ จนกว่าพวกเจ้าจะรู้สิ่งที่พวกเจ้าพูด และก็จงอย่าเข้าใกล้การละหมาด ขณะที่เป็นผู้มีญะนาบะฮ์ นอกจากผู้ที่ผ่านทางไปเท่านั้น จนกว่าพวกเจ้าจะอาบน้ำ” [ ซูเราะฮ์อันนิซาอ์ – 43 ]
หมายถึง อย่าเข้าไปในมัสญิดเพื่อพำนักอยู่ในนั้น และคำกล่าวของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า (มัสญิดนั้นไม่อนุญาต(ให้เข้าไปพำนัก)สำหรับผู้ที่มีญะนาบะฮ์ และหญิงที่มีประจำเดือน) บันทึกโดยอบูดาวูด จากฮะดีษของท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮา และท่านอิบนุคุซัยมะฮ์ให้สถานะว่าศ่อเฮี๊ยะฮ์
แต่ถ้าหากผู้ที่มีฮะดัษใหญ่อาบน้ำละหมาดแล้ว อนุญาตให้พำนักในมัสญิดได้ ดังคำพูดของท่านอะฏออ์ ที่ว่า “ฉันเห็นบรรดาศ่อฮาบะฮ์ของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่งกันอยู่ในมัสญิด โดยที่พวกเขานั้นมีญะนาบะฮ์ ซึ่งพวกเขาได้อาบน้ำละหมาดแบบเดียวกับการอาบน้ำละหมาดเพื่อละหมาดแล้ว”
อนุญาตให้ผู้ที่มีฮะดัษใหญ่เดินตัดผ่านในมัสญิดได้ โดยที่ไม่ได้นั่ง ดังที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า ((นอกจากผู้ที่ผ่านทางไปเท่านั้น)) ซึ่งการยกเว้นจากข้อห้าม(ไม่ให้พำนัก)ดังกล่าว ฮุก่มคือสามารถทำได้ และ(การยกเว้นดังกล่าว)ยังถือเป็นการเจาะจงคำพูดกว้างๆของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า (มัสญิดนั้นไม่อนุญาต(ให้เข้าไปพำนัก)สำหรับผู้ที่มีญะนาบะฮ์ และหญิงที่มีประจำเดือน) อีกด้วย
ดังกล่าวยังหมายรวมถึง มุศ็อลลา(สถานที่ที่ใช้ละหมาด)อีด ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีฮะดัษใหญ่เข้าไปนั่งโดยไม่มีน้ำละหมาด แต่อนุญาตให้เดินตัดผ่านได้ เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า (บรรดาสตรีที่มีประจำเดือนจงอยู่ห่างมุศ็อลลาของเรา)
แหล่งที่มา; หนังสือ “อัลมุลัคค็อซอัลฟิกฮีย์” ของเชค ซอและฮ์ บินเฟาซาน ฮะฟิเซาะฮุ้ลลอฮ์ เล่มที่ 1 หน้า 23-28