คำถาม การกล่าวปฏิญาณ(ลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ)ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าจำเป็นต้องกล่าวคำปฎิญาณควบคู่กับการมีความเชื่อมั่นในคำกล่าวนั้น ดังนั้นอะไรคือจุดประสงค์ของการมีความเชื่อมั่นควบคู่กับคำปฎิญาณครับ ?
คำตอบ อันดับแรกเลย บุคคลคนหนึ่งนั้นจำเป็นจะต้องกล่าวคำปฎิญาณทั้งสอง (ลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ มุฮัมหมัดร่อซูลุ้ลลอฮ์ ) ถ้าหากว่าเขาสามารถกล่าวคำปฎิญาณนั้นได้ แต่ไม่ยอมกล่าวคำปฎิญาณนั้น ถือว่าเขายังไม่ได้เข้ารับอิสลาม จนกว่าเขาจะกล่าวคำปฎิญาณทั้งสองนี้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นมติเอกฉันท์ในหมู่นักวิชาการ
นอกจากนั้นแล้วการกล่าวคำปฎิญาณนั้นจะต้องควบคู่กับการมีความเชื่อมั่นและสัจจริงต่อความหมายของคำปฎิญาณทั้งสองนั้น ซึ่งก็คือการเชื่อมั่นศรัทธาว่าไม่มีผู้ใดที่คู่ควรแก่การถูกสักการะอย่างแท้จริงเว้นแต่อัลลอฮ์เพียงองค์เดียว
และหากเขาได้กล่าวคำปฎิญาณออกมาอย่างเสแสร้งเช่นเดียวกับที่บรรดาพวกกลับกลอกได้กล่าว โดยที่(ในใจของ)พวกเขายังเชื่อว่ามีพระเจ้าอื่นเคียงคู่กับอัลลอฮ์ ก็เท่ากับว่าคำปฎิญาณนั้นไม่มีโยชน์อะไรแก่พวกเขาเลย และไม่ถือว่าพวกเขาเข้ารับอิสลามแม้กระทั่งภายในใจก็ตาม(เพราะภายในใจของเขาไม่ได้กล่าวด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา)
ดังที่อัลลอฮ์ ตะอาลาได้ตรัสว่า : “แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นอยู่ในชั้นต่ำสุดจากนรก และเจ้าจะไม่พบผู้ช่วยเหลือใด ๆ สําหรับพวกเขาเป็นอันขาด”(อันนิซาอ:145)
และในอีกอายะฮ์หนึ่งอัลลอฮ์ได้ตรัสว่า “จากหมู่ชนนั้น มีผู้กล่าวว่า เราได้ศรัทธา ต่ออัลลอฮฺ และวันปรโลกแล้ว ทั้ง ๆ ที่พวกเขา หาใช่เป็นผู้ศรัทธาไม่”(อัลบะกอเราะฮ์:8)
ดังนั้นเขาจำเป็นจะต้อง(กล่าวคำปฏิญาณทั้งสองนี้) ด้วยความเชื่อมั่นจากหัวใจ และต้องมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดที่คู่ควรแก่การสักการะอย่างแท้จริงเว้นแต่อัลลอฮ์เพียงองค์เดียวเท่านั้น
ดังนั้นแล้วหากว่าเขายังเย่อหยิ่งไม่ยอมนอบน้อมต่อบทบัญญัติของพระองค์ การปฎิเสธ(ด้วยการเย่อหยิ่งจนไม่ยอมรับอิสลาม)นั้นย่อมไม่ทำให้คำปฎิญาณมีประโยชน์กับเขาแต่อย่างใด
ดังที่อัลลอฮ ได้ตรัสว่า: “เช่นนั้นแหละ เพราะว่าอัลลอฮ์คือผู้ทรงสัจจะ และแท้จริงสิ่งที่พวกเขาวิงวอนขออื่นจากพระองค์นั้นมันเป็นเท็จ และแท้จริงอัลลอฮ์ พระองค์เป็นผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิ่งใหญ่(อัลฮัจญ์:62)
และในอีกอายะฮ์หนึ่งอัลลอฮ์ได้ตรัสว่า “และพระเจ้าของพวกเจ้าตรัสว่า จงวิงวอนขอต่อข้า ข้าจะตอบรับแก่พวกเจ้า ส่วนบรรดาผู้โอหังต่อการเคารพภักดีแก่ข้านั้น พวกเขาจะเข้าไปอยู่ในนรกอย่างต่ำต้อย (อัลฆอฟิร:60)
เช่นเดียวกันหากเขาได้เย่อหยิ่งไม่ยอมกล่าวคำปฎิญาณว่า ท่านนบีมุฮัมหมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮ์ หรือกล่าวคำปฏิญาณออกมาแบบเสแสร้งหลอกลวง ถือว่าเขานั้นเป็นผู้ปฎิเสธศรัทธา จนกว่าเขาจะศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมมัด และน้อมรับในบทบัญญัติของท่าน และสิ่งนี้ถือเป็นมติเอกฉันท์ในหมู่นักวิชาการ อัลลอฮุลมุสตะอาน(อัลลอฮ์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ให้ความช่วยเหลือ)
แหล่งที่มา; หนังสือ อัดดุรุนอัซวะรียะฮ์ มินั้ลฟะตาวา อัลบาซียะฮ์ ของเชคบินบาซ หน้าที่ 31