ดอกเบี้ยเชิงปริมาณ และดอกเบี้ยเชิงเวลา

·

คำถาม อะไรคือ ดอกเบี้ยเชิงปริมาณ (ริบาอัล-ฟัฏล์) และดอกเบี้ยเชิงเวลา (ริบาอัน-นะซีอะฮ์) และความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยสองประเภทนี้

คำตอบ ริบาอัน-นะซีอะฮ์(ดอกเบี้ยเชิงเวลา) มาจากรากศัพท์ในภาษาอาหรับว่า อัน-นะซะอ์ หมายถึง การล่าช้า มี 2 ประเภทด้วยกัน คือ
  ประเภทที่ 1. คือดอกเบี้ยที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน สำหรับลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ตามกำหนดเวลาที่ตกลงกัน ดอกเบี้ยประเภทนี้เรียกได้อีกอย่างว่า “ริบา อัล-ญาฮิลียะฮ์” คือการที่เจ้าหนี้แจ้งกับลูกหนี้เมื่อครบกำหนดชำระหนี้ว่า: “ท่านจะชำระหนี้ตอนนี้เลยหรือจะให้คิดอัตราหนี้เพิ่ม ซึ่งถ้าหากเขาชำระหนี้ก้อนดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนดอัตราหนี้ก็คงเดิม แต่หากว่ายังไม่ชำระหนี้ ก็จะคิดอัตราหนี้เพิ่มจากเดิม แทนการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป  ดังนั้นปริมาณหนี้สินในพันธะของลูกหนี้ที่ต้องจ่ายจากเดิม ก็จะทวีคูณมากขึ้นไปอีก
  ประเภทที่ 2. คือดอกเบี้ยที่เกิดจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนของสองสิ่งที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกัน ในด้านการเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดดอกเบี้ยเชิงปริมาณ (หากมีสัดส่วนการแลกเปลี่ยนไม่เท่ากัน) โดยมีการแลกเปลี่ยนของทั้งสอง หรือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ล่าช้าออกไป เช่น ขายทองแลกทอง ทองแลกเงิน หรือเงินแลกทอง โดยประวิงเวลาออกไปหรือไม่มีการรับมอบกัน ณ สถานที่ที่ตกลงซื้อขาย

ริบาอัล-ฟัฏล์(ดอกเบี้ยเชิงปริมาณ ) มาจากรากศัพท์ในภาษาอาหรับว่า อัล-ฟัฏล์ หมายถึง การเพิ่มมูลค่าหรือปริมาณของหนึ่งในสิ่งแลกเปลี่ยนสองสิ่ง(ที่จัดอยูประเภทเดียวกันของทรัพย์ดอกเบี้ย) แต่มีสัดส่วนการแลกเปลี่ยนไม่เท่ากัน ซึ่งบทบัญญัติอิสลามมีหลักฐานที่ได้ระบุห้ามอย่างชัดเจนถึงการแลกเปลี่ยนสินค้า 6 ประเภทที่ต้องแลกเปลี่ยนในปริมาณที่เท่ากัน ได้แก่ ทองคำ เงิน ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ อินทผลัม และเกลือ
  ดังนั้น หากมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนหนึ่งในสินค้า 6 ประเภทดังกล่าว จึงห้ามไม่ให้มีการเพิ่มปริมาณของสินค้าไปมากกว่ากัน และสินค้าทั้ง 6 ประเภทนี้ยังนำมาเทียบเคียงข้อบัญญัติกับทุกๆสิ่งที่มีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับ 6 ประเภทข้างต้น (โดยพิจารณาสิ่งที่เข้าข่ายที่อาจเป็นเหตุให้เกิดดอกเบี้ยเชิงปริมาณได้) ตัวอย่างเช่น ไม่อนุญาตให้ขายทองคำเกรดที่ไม่ดี 1 กิโลกรัมแทนทองคำเกรดดีครึ่งกิโลกรัม เช่นเดียวกันกับเงินแลกกับเงิน ข้าวสาลีแลกกับข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์แลกกับข้าวบาร์เลย์ อินทผลัมแลกกับอินทผลัม เกลือแลกกับเกลือ นอกจากจะต้องแลกเปลี่ยนสิ่งของที่มีชนิดหรือประเภทเดียวกันในสัดส่วนที่เท่ากันแล้ว จะต้องตกลงแลกเปลี่ยนกัน ณ ที่ตกลงซื้อขาย หรือแลกปลี่ยนในช่วงเวลานั้นทันที
  แต่อนุญาตให้ขายทองคำ 1 กิโลกรัม แลกกับเงิน 2 กิโลกรัมได้หากตกลงซื้อขายหรือแลกปลี่ยนในช่วงเวลานั้นทันที เพราะเป็นสิ่งของคนละประเภทกัน โดยท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้กล่าวไว้ว่า : “ทองแลกทอง เงินแลกเงิน ข้าวสาลีแลกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์แลกข้าวบาร์เลย์ อินทผลัมแลกอินทผลัม เกลือแลกเกลือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนจะต้องเท่ากัน (ทั้งชนิดและปริมาณ) และต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนกันทันที แต่ถ้าหากต่างชนิดกัน พวกท่านก็จงขายในมูลค่าตามแต่ที่ท่านต้องการเถิด แต่จะต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนกันทันที”  รายงานโดยมุสลิม จากหะดีษของท่านอุบาดะฮ์ บิน อัซซอมิต ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุ

เเหล่งอ้างอิง; คำถามที่สามสิบสอง จากฟัตวาเลขที่ (18612) จากฟัตวาของคณะกรรมการถาวร
จากหนังสือ  ฟะตาวาของคณะกรรมการถาวร เล่มที่ 13  หน้า 330-331