คำถาม อะไรคือคําตัดสินของอิสลามเกี่ยวกับการที่คนๆหนึ่งพบเจอของตกหล่นในสถานที่ที่ปราศจากผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นของมีค่าหรือไม่มีค่า และมีสถานที่ใดหรือไม่ที่ห้ามมิให้เก็บของตกหล่นจะมากหรือน้อยก็ตาม เพราะในขณะที่ฉันขับรถระหว่างเมืองมักกะฮ์กับเมืองญิดดะฮ์ ฉันพบที่นอนฟองน้ำจํานวนหนึ่งบนถนน ฉันจึงเก็บกลับไปที่บ้านของฉัน ฉันจะมีความผิดอะไรหรือไม่ที่กระทำเช่นนี้?
คำตอบ : การเก็บของที่ตกหล่นนี้มีบทบัญญัติในกฎหมายอิสลาม ซึ่งบรรดานักวิชาการฟิกฮ์ ร่อฮิมะฮุมุ้ลลอฮ์ ได้อธิบายเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยนํามาจากซุนนะฮ์ของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่มีการรายงานมา และส่วนหนึ่งจากฮุก่มของการเก็บของที่ตกหล่นก็คือ
ถ้ามันเป็นสิ่งของเล็กๆน้อยๆ ที่คนปรกติทั่วไปไม่ได้สนใจที่จะตามหา เขาสามารถเก็บสิ่งของนั้นและเอามาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนได้เลย
แต่ถ้ามันเป็นสิ่งของที่มีค่าที่คนทั่วไปให้ความสำคัญ เขาสามารถเก็บสิ่งของนั้นได้โดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องทราบลักษณะเด่นของสิ่งของนั้น และประกาศตามหาเจ้าของตามสถานที่ที่เป็นแหล่งชุมนุม ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม จนกว่าเจ้าของจะรู้เรื่องนี้แล้วมารับมันคืน หลังจากที่เขาสามารถบอกลักษณะเด่นของสิ่งของนั้นได้
แต่ถ้าหากการสิ่งของที่ตกหล่นนั้นอยู่ในเขตหะรอม1 ซึ่งอยู่ภายในระยะทางหลายไมล์(ที่ถูกกำหนดว่าเป็นเขตหะรอม) จะไม่อนุญาตให้บุคคลเก็บของที่ตกหล่นเ นอกจากว่าเขาจะต้องตามหาเจ้าของอยู่ตลอดเวลาจนกว่าเจ้าของจะมารับคืน แต่ถ้าหากสิ่งของนั้นอยู่นอกเขตหะรอม ก็จะมีฮุก่มเดียวกับข้อที่แล้ว คือถ้าเขาเก็บมันไว้ และรู้ลักษณะเด่นของมัน และประกาศตามหาเจ้าของเป็นเวลาหนึ่งปีตามแหล่งชุมนุมของผู้คน และหากไม่มีใครมารับคืน เขาก็มีสิทธิ์ครอบครองของสิ่งนั้นได้
ส่วนของที่ตกหล่นในเขตหะรอมนั้น เขาไม่สามารถเก็บของนั้นได้ แต่ถ้าเขาจะเก็บไว้ ก็มีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องประกาศตามหาอยู่ตลอด(ไม่มีระยะเวลาจำกัด)โดยไม่สามารถครอบครองสิ่งของนั้นได้เลย นี่คือความแตกต่างระหว่างของที่ตกหล่นในเขตหะรอมกับสถานที่อื่น เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวในเมืองมักกะห์ว่า : “ของที่ตกหล่นในเมืองนี้จะไม่อนุญาตให้เก็บมันยกเว้นคนที่ออกตามหา(ให้แก่เจ้าของ)เท่านั้น”
ส่วนที่ท่านบอกว่าพบเจอที่นอนฟองน้ำบนถนนระหว่างทางเมืองมักกะฮ์กับเมืองญิดดะฮ์ ฮุก่มก็เป็นอย่างที่ได้บอกไปแล้ว หากของนั้นอยู่นอกขอบเขตหะรอม ให้ท่านประกาศตามหาเจ้าของเป็นเวลาหนึ่งปี แล้วท่านจึงจะสามารถเป็นเจ้าของสิ่งนั้นได้
แต่ถ้ามันอยู่ในเขตหะรอม ไม่อนุญาตให้ท่านครอบครอง แต่ให้ประกาศหาจนกว่าจนกว่าเจ้าของจะมารับคืน หรือไม่ก็ให้ปล่อยไว้ที่เดิม เพราะของนั้นจะอยู่ในความรับผิดชอบ(ของผู้ที่เก็บไป) และตัวท่านก็จะได้ปลอดภัย แต่ถ้ามั่นใจว่าตนมีอะมานะฮ์(ความซื่อสัตย์)พอ และมีความสามารถที่จะทำให้ถูกต้องตามหลักการ ก็ให้รับมันไป แต่ถ้าท่านไม่ไว้วางใจตัวเอง หรือไม่สามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติได้ ก็ให้ทิ้งมันไว้แบบนั้น ตัวท่านก็จะปลอดภัย และอัลลอฮ์ทรงรู้ดียิ่ง
แหล่งที่มา; หนังสือมัจญมูอ์ฟะตาวาของเชคเฟาซาน ฮะฟิเซาะฮุ้ลลอฮ์ เล่มที่ 2 หน้าที่ 519-520
- หมายถึง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นก็คือเขตเมืองมักกะฮ์ และมะดีนะฮ์ในยุคของท่านร่อซู้ล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งมีข้อเห็นต่างในหมู่นักวิชาการว่าหะรอมมะดีนะฮ์จะมีฮุก่มเดียวกับฮะรอมมักกะฮ์หรือไม่ในเรื่องของที่ตกหล่น นักวิชาการส่วนใหญ่มีทรรศนะว่าฮุก่มนี้เฉพาะหะรอมมักกะฮ์เท่านั้น ส่วนหะรอมมะดีนะฮ์เหมือนกับเมืองทั่วๆไปที่สามารถครอบครองของที่ตกหล่นได้หลังจากประกาศตามหาเจ้าของแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม ↩︎